วันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

กัลลิเวอร์ผจญภัย

กัลลิเวอร์เป็นพนักงานประจำห้องเอกสารในสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง เขาแอบชอบ บก. สาวชื่อดาร์ซี่แต่ไม่มีใครรู้ จนรุ่นน้องที่สังกัดเขาอยู่ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าของกัลลิเวอร์แทน เขารู้สึกเฟลจึงเข้าไปหาดาร์ซี่เพื่อขอคุยด้วย แต่เขินเกินไปจึงแกล้งทำไก๋หยิบเอกสารแผ่นนึงขึ้นมา ปรากฏว่าเป็นเอกสารสมัครงานเขียนเกี่ยวกับการท่องเที่ยว แล้วก็ทำเนียนโม้ไปเรื่อย และปั่นงานมั่วขึ้นมาให้เป็นตัวอย่าง แต่ดันโดนใจเธอเข้าเต็มๆ
กัลลิเวอร์เลยได้รับมอบหมายให้ไปหาข้อมูลที่เกาะเบอร์มิวด้า หลังจากล่องเรืออกไปด้วยจีพีอาร์เอส เรือได้หลงเข้าไปในหมอกและถูกดูดเข้าไปในเสาน้ำวน มารู้ตัวอีกที เขาก็โดนจับอยู่ในคุกใต้ดิน ที่เมืองคนจิ๋ว ลิลลี่พุท เข้าซะแล้ว
เขาพบว่าตนเองเป็นคนที่ใหญ่สุดในอาณาจักรแห่งนี้ เขาเลยมีอีโก้ใหญ่ตามไปด้วย และกลายเป็นวีรบุรุษผู้กล้าหาญ ปราบเรือรบศัตรูได้อย่างง่ายดาย (แอบสปอยล์ว่ามีบางตอนเหมือนลูฟี่) ทำให้นายพลเอ็ดเวิร์ดหมั่นไส้และไปทรยศฝ่ายตรงข้าม ทำหุ่นยนต์ขึ้นมาต่อกรกับกัลลิเวอร์
กัลลิเวอร์แพ้ และสารภาพว่าที่รู้ๆ กันน่ะเราโม้นะจ๊ะ จึงถูกสั่งให้ไปเกาะที่ไม่มีใครกล้าไป ปรากฏว่าเกาะแห่งนั้นเป็นเกาะคนยักษ์ และเพื่อนที่รู้จักกันในคุกจึงมาขอความช่วยเหลือ กัลลิเวอร์จึงกลับไปสู้กับเอดเวิร์ดอีกครั้ง และสำเร็จลงด้วยดีโดยมีเพื่อนตัวเล็กของเขาเป็นผู้ช่วยถอดปลั้กไฟ
กัลลิเวอร์ได้สารภาพรักกับดาร์ซี่ ที่ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นเหมือนกัน และทั้งสองก็เป็นแฟนกันในท้ายที่สุด











My Profile


 
















ชื่อ เด็ดกชาย จักริน เจริญสุวรรณ อายุ 14 ปี เกิดวันที่ 5 ธันวาคม 2542เรียนอยู่โรงเรียนอัสสัมชัญตั้วแต่ชั้น ป.1 ถึง ม.2 ผมเป็นคนที่เรียนไม่ค่อยเก่งแต่ก็ไม่ได้แย่มาก ผมอยู่กับคุณพ่อ คุณแม่ พี่  คุณปู่ คุณย่า 
หนังสือการ์ตูนที่ผมชอบอ่านคือ ไซอิ๋ว เป็นการ์ตูนที่สนุกมาผมชอบไปอ่านหนังสือเล่มนี้ตอนเย็นเป็นประจำ ช่อง TV ที่ผมดูเป็นประจำคือ Cartoon Network , Discovery Channel , National Planet ,National Geographic , Animal Planet และอื่นๆ วิชาที่ผมชอบที่สุดคือคณิตศาสตร์เป็นวิชาที่ง่ายและวิชาที่ผมไม่ชอบที่สุดคือ วิทยาศาสตร์สากลเป็นวิชาที่ผมเรียนไม่ค่อยรู้เรื่องจึงทำให้คะแนนในวิชานี้มีค่อนข้างน้อย  ทุกๆปีผมจะต้องไปเที่ยวกับครอบครัวในช่วงวันหยุดฤดูร้อนผมขะไปภาคเหนือทุกปีผมขะผ่าน ลำพูน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน แล้วก็จังหวัดเชียงลายอำเภอแม่สายซื้อติดกับประเทศพม่าแต่ผมไม่ค่อยได้ข้ามไปเพราะไม่ชอบประเทศพม่าสักเท่าไหร่มันดูสกปรกและมีกลิ่นเหม็น กีฬาที่ผมชอบคือ ฟุตบอล ว่ายน้ำ และอื่นๆแต่ส่วนใหญผมเล่นฟุตบอล ผมชอบไปทะเลเพราะว่าเป็นที่ที่สนุกมากผมได้เล่นน้ำกัคครอบครัวของผมแต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้ไปมานานมากแล้วส่วนใหญ่็ไปต่างจังหวัด อาหารที่ผมชอบกินมากที่สุดคือ แฮมเบอร์เกอร์จากร้าน Mcdonald ที่อยูผมในปัจจุบันคือ 75 ถนนพระราม 6 ( ตุัดัใหม่ ) แขวืงรองเมือง เขตปทุมวัน 10330 ต้นไม้ที่ผมชอบคือ ข้าว ดอกไม้ที่ผมชอบคือ ดอกกล้วยไม้ ส่วนสัตว์ที่ผมชอบ สุนัข แมว แล้วก็ปลา สีที่ชอบคือ สีเขียว สีดำ และ สีน้ำเงิน  นิสัยของผมชอบเป็นผู้ตามมากกว่าผู้นำเพราะผมยังไม่ค่อยเชื่อมั้นในตนเองสักเท่าไหร่ และผมก็ชอบที่จะทำตามคำสั่ง ผมเป็นคนขี้เกียจ
เวลาว่างส่วนใหญ่ผมจะเล่นเกมฉายาของผมที่ รร คือ แมวเพื่อนจากห้องป.6 มักจะเรียกผมว่าแมว
ซึ่งผมก็ยังไม่เข้าใจจนถึงปัจจุบันนี้ว่ามันหมายถึงอะไรอนาคตผมอยากเป็นวิศวกรเพราะว่าผมเป็นคนชอบวาดรูปแต่ก็ยังวาดไม่สวยสักเท่าไหร่แต่ก็ไม่ได้แย่มาก และผมก็เป็นคนถนัดมือซ้าย ตอนป.6 ผมเข้าชมรมวาดรูปผมได้วาดรูปรามเกียรติ์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมากแต่ผมก็วาดออกมาได้ ค่อนข้างดีแต่ก็
ไม่สวยสักเท่าไหร่

เทคโนโลยีสารสนเทศ

 บทบาทความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ


                   ความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทำให้มีการพัฒนาคิดค้นสิ่งอำนวยความสะดวกสบายต่อการดำชีวิตเป็นอันมาก เทคโนโลยีได้เข้ามาเสริมปัจจัยพื้นฐานการดำรงชีวิตได้เป็นอย่างดี เทคโนโลยีทำให้การสร้างที่พักอาศัยมีคุณภาพมาตรฐาน สามารถผลิตสินค้าและให้บริการต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์มากขึ้น เทคโนโลยีทำให้ระบบการผลิตสามารถผลิตสินค้าได้เป็นจำนวนมากมีราคาถูกลง สินค้าได้คุณภาพ เทคโนโลยีทำให้มีการติดต่อสื่อสารกันได้สะดวก การเดินทางเชื่อมโยงถึงกันทำให้ประชากรในโลกติดต่อรับฟังข่าวสารกันได้ตลอดเวลา
พัฒนาการของเทคโนโลยีทำให้ชีวิตความเป็นอยู่เปลี่ยนไปมาก ลองย้อนไปในอดีตโลกมีกำเนินมาประมาณ 4600 ล้านปี เชื่อกันว่าพัฒนาการตามธรรมชาติทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตถือกำเนินบนโลกประมาณ 500 ล้านปีที่แล้ว ยุคไดโนเสาร์มีอายุอยู่ในช่วง 200 ล้านปี สิ่งมีชีวิตที่เป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ ค่อย ๆ พัฒนามา คาดคะเนว่าเมื่อห้าแสนปีที่แล้วมนุษย์สามารถส่งสัญญาณท่าทางสื่อสารระหว่างกันและพัฒนามาเป็นภาษา มนุษย์สามารถสร้างตัวหนังสือ และจารึกไว้ตามผนึกถ้ำ เมื่อประมาณ 5000 ปีที่แล้ว กล่าวได้ว่ามนุษย์ต้องใช้เวลานานพอสมควรในการพัฒนาตัวหนังสือที่ใช้แทนภาษาพูด และจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า มนุษย์สามารถจัดพิมพ์หนังสือได้เมื่อประมาณ 5000 ปีที่แล้ว กล่าวได้ว่าฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า มนุษย์สามารถจัดพิมพ์หนังสือได้เมื่อประมาณ 500 ถึง 800 ปีที่แล้ว เทคโนโลยีเริ่มเข้ามาช่วยในการพิมพ์ ทำให้การสื่อสารด้วยข้อความและภาษาเพิ่มขึ้นมาก เทคโนโลยีพัฒนามาจนถึงการสื่อสารกัน โดยส่งข้อความเป็นเสียงทางสายโทรศัพท์ได้ประมาณร้อยกว่าปีที่แล้ว และเมื่อประมาณห้าสิบปีที่แล้ว ก็มีการส่งภาพโทรทัศน์และคอมพิวเตอร์ทำให้มีการใช้สารสนเทศในรูปแบบข่าวสารมากขึ้น ในปัจจุบันมีสถานที่วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ แ ละสื่อต่าง ๆ ที่ใช้ในการกระจ่ายข่าวสาร มีการแพร่ภาพทางโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเพื่อรายงานเหตุการณ์สด เห็นได้ชัดว่าเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทอย่างมาก บทบาทของการพัฒนาเทคโนโลยีรวดเร็วขึ้นเมื่อมีการพัฒนาอุปกรณ์ทางด้านคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ จะเห็นได้ว่าในช่วงสี่ห้าปีที่ผ่านมาจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งมีคอมพิวเตอร์เข้าไปเกี่ยวข้องให้เห็นอยู่ตลอดเวลา


                 



                

                   https://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=R2FOW8TIaFc
                                         


               










ประเพณีภาคอีสาน

ประเพณีท้องถิ่นภาคอีสาน

ประเพณีท้องถิ่นภาคอีสาน


     ประเพณีล้วนได้รับอิทธิพลมาจากสิ่งแวดล้อมภายนอกที่เข้าสู่สังคมรับเอาแบบปฏิบัติที่หลากหลายเข้ามาผสมผสานในการดำเนินชีวิตประเพณีจึงเรียกได้ว่าเป็น วิถีแห่งการดำเนินชีวิตของสังคม โดยเฉพาะศาสนาซึ่งมีอิทธิพลต่อประเพณีไทยมากที่สุด วัดวาอารามต่างๆในประเทศไทยสะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของพุทธศาสนาที่มีต่อสังคมไทยและชี้ให้เห็นว่าชาวไทยให้ความสำคัญในการบำรุงพุทธศาสนาด้วยศิลปกรรมที่งดงามเพื่อใช้ในพิธีกรรมทางศาสนาตั้งแต่โบราณกาล เป็นต้น

      คำว่า ประเพณี ตามพจนานุกรมภาษาไทยฉบับบัณฑิตยสถาน ได้กำหนดความหมายประเพณีไว้ว่า ขนบธรรมเนียมแบบแผน ซึ่งสามารถแยกคำต่างๆ
ออกได้เป็น
           ขนบ มีความหมายว่า ระเบียบแบบอย่าง
           ธรรมเนียม มีความหมายว่า ที่นิยมใช้กันมา และเมื่อ
     นำมารวมกันแล้วก็มีความหมายว่า ความประพฤติที่คนส่วนใหญ่ ยึดถือเป็นแบบแผน และได้ทำการปฏิบัติสืบต่อกันมา จนเป็นต้นแบบที่จะให้คนรุ่นต่อๆไปได้ประพฤติปฏิบัติตามกันต่อไป


ชื่อประเพณี  ฮีตสิบสอง

จังหวัด กาฬสินธุ์
     ประเพณีท้องถิ่นกาฬสินธุ์ ยังยึดถือ และปฏิบัติตามฮีตสิบสอง คำว่า "ฮีต" หมายถึง จารีต ขนบธรรมเนียมประเพณี แบบแผนฮีตที่ถือปฏิบัติกันอยู่ ๑๒ อย่าง ภาษาพื้นบ้านเรียกว่า "บุญ" ดังนี้
๑. บุญข้าวกรรม
 
     เกี่ยวกับพระภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสส ต้องอยู่กรรมจึงจะพ้นอาบัติ ถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ในระหว่างภิกษุเข้ากรรม ญาติ โยม สาธุชน ผู้หวังบุญกุศล จะไปร่วมทำบุญบริจาคทาน รักษาศีลเจริญภาวนา และฟังธรรม เป็นการร่วมทำบุญระหว่างพระภิกษุ สามเณร และชาวบ้านกำหนดวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนอ้าย เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "บุญเดือนอ้าย"
๒. บุญคูนลาน
     การทำบุญคูนลาน จะทำที่วัด หรือที่บ้านก็ได้ โดยชาวบ้านจะเอาข้าวมารวมกัน แล้วนิมนต์พระภิกษุมาเจริญพระพุทธมนต์ จัดน้ำอบ น้ำหอมไว้ประพรม วนด้ายสายสิญจน์บริเวณรอบกองข้าว ตอนเช้ามีการถวายอาหารบิณฑบาต และนำเอาน้ำพระพุทธมนต์ไปรดกองข้าว ถ้าทำที่บ้านเรียกว่า "บุญกุ้มข้าว" กำหนดในเดือนยี่ เรียกอย่างหนึ่งว่า "บุญเดือนยี่
๓. บุญข้าวจี่
     เดือนสามชาวบ้านนิยมทำบุญข้าวจี่ เพื่อถวายพระ เป็นการละทานชนิดหนึ่ง และถือว่าได้รับอานิสงส์มากงานหนึ่ง กำหนดทำบุญในเดือนสาม
๔. บุญพระเวส
 
     บุญที่มีการเทศพระเวส หรือบุญมหาชาติ หนังสือมหาชาติเป็นหนังสือชาดกที่แสดงจริยวัตรของพระพุทธเจ้า เมื่อเสวยชาติเป็นพระเวสสันดร กำหนดทำบุญเดือนสี่ จึงเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "บุญเดือนสี่"
๕. บุญสรงน้ำ
     บุญสรงน้ำ มีการรดน้ำ หรือสรงน้ำพระพุทธรูป พระสงฆ์ และผู้หลักผู้ใหญ่ มีการทำบุญทำทาน เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "บุญตรุษสงกรานต์" กำหนดทำบุญในเดือน ห้า
๖. บุญบั้งไฟ
     ก่อนการทำนาชาวบ้านในจังหวัดในภาคอิสาน จะมีการฉลองอย่างสนุกสนาน โดยการจุดบั้งไฟ เพื่อไปบอกพญาแถน เชื่อว่าจะทำให้ฝนตกถูกต้องตามฤดูกาล มีการตกแต่งบั้งไฟให้สวยงามนำมาประกวดแห่ แข่งขันกันในวันรุ่งขึ้น กำหนดทำบุญในเดือน หก
๗. บุญซำฮะ
 
     ซำฮะ คือการชำระล้างสิ่งสกปรก รกรุงรังให้สะอาดหมดจด เมื่อถึงเดือน ๗ ชาวบ้านจะรวมกันทำบุญโดยยึดเอา "ผาม หรือศาลากลางบ้าน" เป็นสถานที่ทำบุญ ชาวบ้านจะเตรียมดอกไม้ธูปเทียน โอน้ำ ฝ้ายใน ไหมหลอด ฝ้ายผูกแขน แห่ทรายมารวมกันที่ ผามหรือศาลากลางบ้าน ตอนเย็นนิมนต์พระสงฆ์มาเจริญพระพุทธมนต์ ตอนเช้าถวายอาหาร เมื่อเสร็จพิธีทุกคนจะนำน้ำพระพุทธมนต์ ฝ้ายผูกแขน แห่ทรายของตนกลับบ้าน นำน้ำมนต์ไปรดลูกหลาน ทรายนำไปหว่านรอบบ้าน ฝ้ายผูกแขนนำไปผุกข้อมือลูกหลานเพื่อให้เกิดสวัสดิมงคลตลอดปี ถ้ามีการเจ็บไข้ได้ป่วยต้องมีการสวดถอด เป็นต้น กำหนด ทำบุญในเดือน ๗
๘. บุญเข้าพรรษา
     ในเทศกาลเข้าพรรษา เป็นเวลาที่พระภิกษุสงฆ์จะต้องบำเพ็ญไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา ให้บริบูรณ์ ส่วนคฤหัสถ์ก็จะต้องบำเพ็ญบุญกริยาวัตถุ ๓ คือ ทาน ศีล ภาวนา ให้เต็มเปี่ยม ตอนเช้าญาติโยมจะนำอาหารมาถวายพระภิกษุ ตอนบ่ายนำดอกไม้ธูปเทียน ข้าวสาร ผ้าอาบน้ำฝน รวมกันที่ศาลาวัด ตอนเย็นญาติโยมพากันทำวัตรเย็นแล้วฟังเทศน์ กำหนด วันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ จึงเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "บุญเดือน ๘"
http://khanitha56-khanitha.blogspot.com/